|
ฎีกาที่ 1756/2548 แม้นายจ้างผู้เป็นโจทก์ไม่ได้ฟ้องขอให้บังคับไว้ ศาลแรงงานก็มีอำนาจพิพากษาได้![]() ![]() ![]()
สัญญาประนีประนอมยอมความคือสัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่งซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างฝ่ายต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน เมื่อคดีนี้นาย จ.(บุคคลภายนอก) มิได้เป็นคู่สัญญาซึ่งต้องรับผิดต่อโจทก์มาแต่เดิม นาย จ. จึงไม่อาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับฝ่ายโจทก์(นายจ้าง)ได้ แม้ศาลแรงงานกลางจะรับฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลย(ลูกจ้าง) มอบหมายให้นาย จ. มาพบกับทนายความของโจทก์ แต่ก็มิได้ฟังไปถึงว่าจำเลย แต่งตั้งให้นาย จ.เป็นตัวแทนของตนมาทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ การที่นาย จ.ทำสัญญายอมร่วมรับผิดด้วยโดยขอผ่อนชำระจึงเป็นการกระทำตัดสินใจไปโดยลำพังด้วยความสมัครใจของ นาย จ. เอง ทั้งข้อความตอนท้ายของข้อ 3.ของสัญญาดังกล่าวระบุว่าไม่ตัดสิทธิโจทก์ในการฟ้องเรียกร้องหนี้ที่ค้างชำระจากจำเลย ก็แสดงชัดเจนว่าสัญญาที่ทำขึ้นนี้ไม่ทำให้หนี้ที่จำเลย จะต้องชำระให้แก่โจทก์ระงับสิ้นไป สัญญานี้แม้จะใช้ชื่อว่า สัญญาประนีประนอมยอมความ แต่ก็หาใช่สัญญาประนีประนอมยอมความตามกฎหมายไม่ เป็นเพียงแต่นาย จ. ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมิได้เป็นลูกหนี้โจทก์ยอมผูกพันตนเข้าร่วมชำระหนี้ของจำเลย ให้แก่โจทก์ด้วยซึ่งเป็นสัญญาประเภทหนึ่งที่โจทก์และนาย จ. กระทำด้วยความสมัครใจ เมื่อไม่ขัดต่อกฎหมายย่อมสมบูรณ์บังคับใช้ได้เท่านั้น เมื่อนาย จ.ชำระหนี้ให้แก่โจทก์เพียงบางส่วนโจทก์จึงมีสิทธิเรียกให้จำเลย ชำระหนี้ส่วนที่ยังค้างชำระตามสัญญาที่โจทก์และจำเลยทำกันไว้ซึ่งไม่เกินกว่าจำนวนหนี้เดิมที่จำเลย จะต้องรับผิดชำระให้แก่โจทก์ได้ นาย ค.เป็นผู้ค้ำประกันการชำระหนี้ของจำเลย โดยโจทก์ไท้ต้องเรียกให้จำเลยชำระหนี้ก่อน ความรับผิดของจำเลยและนาย ค.(ผู้ค้ำประกัน) จึงเป็นไปอย่างลูกหนี้ร่วมกัน และเมื่อหนี้ที่จำเลยและนาย ค.จะต้องรับผิดให้แก่โจทก์เป็นจำนวนเดียวกันกับหนี้ที่ นาย จ. จะต้องรับผิดชำระให้แก่โจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิเรียกชำระหนี้จากจำเลยคนใดคนหนึ่งสินเชิงหรือแต่โดยส่วนตามแต่จะเลือก และการที่จำเลยคนหนึ่งชำระหนี้ย่อมเป็นประโยชน์แก่จำเลยอื่นด้วย ดังนั้น แม้โจทก์จะมิได้ฟ้องขอให้จำเลย(ลูกหนี้)ทั้งหมดร่วมกันชำระหนี้ก็เห็นสมควรพิพากษาให้จำเลย ผู้ค้ำประกัน ร่วมกันชำระหนี้ที่นาย จ.(บุคคลภายนอก) จะต้องชำระเสียให้ชัดเจนด้วยเพื่อความเป็นธรรมแก่คู่ความ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 52
หมายเหตุ ย่อมาจากคำพิพากษาฎีกาที่ 1756/2548 |
|
![]() |
![]() |
Miracle Consultant Limited
1/828 การ์เด้นโฮม ช้อปปิ้ง พลาซ่า หมู่ที่ 17 ถนนพหลโยธิน
ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130 Tel : 02-5316729-30 E-mail : webmaster@miracleconsultant.com |